บอล เชิญยิ้ม ดาราตลกชื่อดังอัดคลิปขอโทษลงบนโซเชียล หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกอินเตอร์เน็ตที่ไม่พอใจพฤติกรรมของเขา ที่อัดคลิปพูดจาเปรียบเทียบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่าไม่น่ารังเกียจเท่ากับผู้ป่วยโรคเอดส์ บอล เชิญยิ้ม รับตนเองผิดพลาดหลังจากพูดจาเหยียดหยามผู้อื่น ข่าววงการบันเทิง             บอล เชิญยิ้มอัดคลิปขอโทษสังคมอย่างใจจริง หลังเจ้าตัวพูดจาเหยียดหยาม เปรียบเทียบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดว่า ไม่น่ารังเกียจเท่ากับผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอดส์ ซึ่งการกระทำครั้งนี้ทำให้บอล เชิญยิ้มโดยสังคมวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ว่าเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง แต่ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องโรคเอดส์ อีกทั้งยังพูดจาเหยียดหยามชี้นำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดต่อโรคนี้กับคนในสังคม โดยคลิปดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกอินเตอร์เน็ตเป็นวงกว้าง และถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ บอล เชิญยิ้ม ได้ออกมาอัดคลิปขอโทษสังคม น้อมรับความผิด พร้อมกล่าวว่าตนจะไม่ทำแบบนี้อีก วอนสังคมให้อภัย ก่อนหน้านี้บอล เชิญยิ้มได้มีการถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนบนโซเชียลไปจากการอัดคลิปเช่นกันโดยก่อนถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์คลิปเหยียดหยามคนเป็นเอดส์บอล เชิญยิ้มได้อัดคลิปไหว้ขอกำลังจากทีมหน่วยแพทย์พยาบาลว่าให้ดูแล น้าค่อม เชิญยิ้ม ดาวตลกอาวุโสชื่อดังอีกคนในวงการเป็นพิเศษ ซึ่งมีอาการทรุดหนักหลังติดเชื้อ โควิด-19 ต้องเข้าไอซียูกระทันหัน ด้วยอากาศปอดติดเชื้อรุนแรง…

น้าค่อม นักแสดงตลกชื่อดังของวงการไทย หลังครอบครัวแจ้งผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจของ น้าค่อม ได้รับเชื้อโควิด-19 ได้ทำการส่งตัว น้าค่อมเข้ารับการักษาพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยในช่วงเช้าวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา โดยน้าค่อมได้ให้สัมภาษณ์กับรายการของ หนุ่ม กรรชัย ว่าตนยังสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ซึ่งกลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลยังมากหลังจากที่มีคลิปเสียงสัมภาษณ์สดผ่านทางรายการว่า “…สบายดีนะ ไอ้สัส!…” ทำเอาหลายคนหัวเราะ คลายกังวลในอาการป่วยดาราตลกรุ่นใหญ่ ข่าววงการบันเทิง น้าค่อม ติดเชื้ออาการทรุด ครอบครัวและคนบันเทิงให้กำลังใจแน่น             น้าค่อมมีอาการทรุดหนักจนต้องเข้ารับการรักษาด่วนในห้องไอซียู เนื่องจากปอดติดเชื้อ มีลักษณะเป็นฝ้าหนา มีอาการหอบเหนื่อย และเส้นเลือดอุดตัน  โดย ไอซ์ ณพัชรินทร์ ลูกสาวของน้าค่อมได้แจ้งรายละเอียดไทม์ไลน์ และอัพเดตอาการอย่างต่อเนื่องบนเฟสบุ๊คแฟนเพจข ซึ่งล่าสุดร่างกายของน้าค่อมผลขีดอันตรายแล้ว แต่ยังคงต้องดาอากาศอย่างใกล้ชิด           ทั้งนี้ ครอบครัวของตลกรุ่นใหญ่รายนี้ได้รับกำลังใจจากแฟนคลับ…

นาทีนี้จะมีคู่รักไหนหวานไปกว่านี้อีก นับตั้งแต่สาว แต้ว ณฐพร เปิดตัวว่าคบกับแฟนหนุ่มสุดน่ารักอย่าง ไฮโซณัย ประณัย เราก็ได้เห็นการหยอดความรักให้กันอยู่ตลอด ทั้งแบบออกสื่อและไม่ออกสื่อ เรียกว่าหวานจนผู้หญิงหลายคนต่างอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถว เพราะนี่แหละคือผู้ชายในฝันที่ทุกคนต้องการ อะไรจะรักแฟนมากมายได้ขนาดนั้น เอาใจใส่ดูแลแม้ในยามที่เข้าใกล้กันไม่ได้             เนื่องจากเหตุการณ์ที่ดีเจมะตูม ออกมาประกาศผ่านสื่อโซเชียลส่วนตัวว่า ตนเองนั้นได้ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วก็กำลังจะไปกักตัวที่โรงพยาบาล ขอให้ทุกคนตรวจสอบตัวเองด้วย งานนี้ ไฮโซณัย ก็ดูท่าจะเป็นห่วง สาวแต้ว อยู่ไม่น้อย เพราะเธอเป็นอีกหนึ่งคนที่ได้ใกล้ชิดกับดีเจมะตูมในช่วงนั้นพอดี ก็เลยต้องมีการตรวจร่างกายอย่างละเอียด พร้อมกับกักตัวอยู่บ้านต่ออีก 14 วัน คู่รักตัวติดกันคู่นี้ จึงถึงทีต้องแยกกันระยะหนึ่ง ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่ว่า เชื้อโรคหรือจะมาขวางทางความรักของ ไฮโซณัย ได้ แน่นอนว่านี่มันยุคดิจิทัลแล้ว เขาก็สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ตลอด คิดถึงมากก็สามารถวิดีโอคอล เพื่อมองหน้ากันยาวไป 24…

เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่น่าอิจฉาแห่งปีเลยทีเดียว กับรุ่นใหญ่ใจนิ่งอย่างคุณ จิ๊บ วสุ ที่มาควงคุ่กับสาวหน้าหวานแห่งวงการอย่าง จ๊ะจ๋า พริมรตา หลายคนคงเคยได้เห็นความน่ารักของคนทั้งคู่ผ่านสื่อมาบ้าง คนนึงก็สุขุมนุ่มลึกแบบผู้ใหญ่ ส่วนอีกคนก็ดื้อดึงเหมือนเด็ก มีทะเลาะกันบ้างตามประสา แต่สุดท้ายก็เหมือนว่าการทะเลาะนั้นจะทำให้ทั้งคู่เข้าใจ และรักกันเหนียวแน่นมากขึ้นทุกวัน             และเมื่อปีที่แล้วเราก็ได้ยินข่าวดีกันหลายหนว่า จิ๊บ วสุ ได้ฤกษ์แต่งงานแล้ว จะมีพิธีอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติฝั่งเจ้าสาว เห็นว่ามีการจ่ายมัดจำสำหรับการเตรียมงานไปไม่น้อยทีเดียว ทั้งบรรดาเพื่อนในวงการและเหล่าแฟนคลับ ต่างก็เฝ้ารอชมความอลังการและความหวานในงานแต่ง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้จัดงาน ต้องเลื่อนไปเรื่อยๆ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั่นเอง มาคราวนี้ จิ๊บ วสุ จึงตัดสินใจว่ายังไงปีนี้ก็จะแต่งแน่นอน โดยไม่รอโควิดซาลง   เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะรอเก้อไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้ว่าตอนไหนถึงจะได้แต่ง แต่ว่าจะเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ โดยในตอนนี้คิดเอาไว้ว่าจะจัดกันเฉพาะภายในครอบครัวก่อน ซึ่งเน้นให้มีแขกจำนวนไม่มาก ขอเชิญเพียงแค่คนสำคัญไม่กี่คนเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงกับคนรอบข้าง แล้วก็เคารพในนโยบายป้องกันโรคที่มีอยู่ด้วย            …